วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2550

ฆ่าหั่นศพครูสาว! เล่นแชทเพื่อหาครูสอนเด็ก

ฆ่าหั่นศพครูสาว! เล่นแชทเพื่อหาครูสอนเด็ก

หนุ่ม-สาวนักแชท เผยประสบการณ์แชท พร้อม "เตือนภัย" โลกไซเบอร์ ระบุตรงกัน ไม่จำเป็น "อย่าเสี่ยง" นัดเจอเพื่อนแชทข้างนอก ระบุปกปิดข้อมูลส่วนตัว-ไม่ใช้รูปจริง หวั่นภัยถึงตัว

คดีสยองขวัญที่ นายโมฮัมหมัด อารีฟ อายุ 34 ปี ชาวปากีสถาน ก่อเหตุฆ่าหั่นศพ น.ส.ดิสนีย์ ทองนาคแท้ อายุ 28 ปี ครูสอนภาษาอังกฤษ สร้างความสลดใจไปทั่วประเทศ ขณะเดียวกันก็กลายเป็น "อุทาหรณ์" สอนใจบรรดา "นักแชท" ที่ชอบติดต่อสื่อสารหาเพื่อนใหม่ในโลกไซเบอร์ได้เป็นอย่างดี

ป าณิสรา คงดี วัย 21 ปี สาวนักศึกษามหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่ง ยอมรับว่า ตอนที่ได้ยินข่าวนี้ครั้งแรกรู้สึกตกใจมาก เพราะขณะนี้เธอเองคุยอยู่กับ "หนุ่มสเปน" คนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนชาติเดียวกับที่นายโมฮัมหมัดแอบอ้าง เพื่อหลอกลวงครูสาว ส่วนความสัมพันธ์ก็กำลังดำเนินไปด้วยดี และหนุ่มคนนี้ก็เป็นหนึ่งในเพื่อนทางอินเทอร์เน็ตหลายๆ คนที่เธอพูดคุยด้วย โดยแต่ละคนนั้นเป็น "ชาวต่างชาติ" ทั้งหมด

ปาณิสรา ให้เหตุผลว่า สาเหตุที่เลือกคุยเฉพาะชาวต่างชาติ เพราะต้องการ "ฝึกภาษาอังกฤษ" โดยเน้นไปที่ชาวเอเชีย เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น ฯลฯ รองลงไปก็จะเป็นแถบยุโรป แต่เวลาคุยกันจะไม่ให้ข้อมูลส่วนตัว ยกเว้นเรื่องอายุ เพศ และส่วนสูง แต่จะไม่บอกน้ำหนัก เพราะไม่มั่นใจในเรื่องรูปร่างหน้าตาของตัวเอง

ผู้ชายที่เข้ามาคุยด้วยแต่ละชาติก็จะแตกต่า งกันออกไป อย่างแถบตะวันออกกลางจะมาในแนวลามก ชวนคุยเรื่องเซ็กส์ บางรายถึงกับโชว์การมีเพศสัมพันธ์ผ่านทางเวบแคมแล้วพูดจาหว่านล้อมให้เราถาม เพื่อให้เขาเกิดอารมณ์ทางเพศ ส่วนฝั่งเอเชียอย่าง เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน หรือจีน จะสุภาพ และพูดจาดีกว่า" นักศึกษาสาวรายนี้ แจกแจงถึงความแตกต่างของหนุ่มไซเบอร์แต่ละสัญชาติ

นอก จากนี้ แม้ทุกคนที่เข้ามาคุยด้วยจะโพสต์รูปเข้ามา แต่เธอก็ไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นรูปจริง เพราะเคยเจอชาวต่างชาติคนหนึ่งเอารูปดาราไทย ซึ่งเธอรู้จักดีมาโพสต์แล้วอ้างว่าเป็นรูปตัวเอง

ปาณ ิสรา ยอมรับด้วยว่า "ติดแชท" มาก โดยจะเล่นแทบทุกวัน ส่วนผู้ปกครองก็รู้ และเคยเตือนอยู่บ่อยๆ แต่เธอก็ไม่คิดจะนัดพบเพื่อนแชทข้างนอก เพราะยังไม่มั่นใจว่าจะเข้ากันได้เหมือนที่คุยในอินเทอร์เน็ตหรือไม่ และกลัวว่าจะเกิดอันตรายขึ้นอย่างที่เป็นข่าวบ่อยๆ

" ถ้าเขาคิดจะคุยกับเรานานๆ ก็คงเข้ามาดีๆ อาจจะคุยแบบเพื่อนธรรมดาก่อนแล้วค่อยคุยเรื่องอื่น เช่น เรื่องส่วนตัวหรือเรื่องครอบครัว ไม่ใช่ว่าคุยกันไม่กี่วันก็นัดเจอ เราจะไปไว้ใจได้ยังไง ยิ่งเป็นชาวต่างชาติด้วย ขนาดคนไทยด้วยกันบางคนยังไว้ใจไม่ได้เลย" สาวนักแชท กล่าวทิ้งท้าย

ด ้าน ผไท บริสุทธิ์ อายุ 23 ปี หนุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง กล่าวว่า ส่วนมากจะคุยกับเพื่อนทางเอ็มเอสเอ็นแบบวันต่อวัน แต่ไม่เคยคุยติดต่อกับใครนานๆ พอคุยเสร็จก็ลบทิ้ง ยกเว้นบางคนที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันก็อาจจะเก็บไว้ เพราะเห็นว่าการคุยกันทางอินเทอร์เน็ตคง "หาความจริงใจได้ยาก" เพราะไม่ได้เจอกันซึ่งๆ หน้า และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาไม่เคยใช้ข้อมูลจริงคุยกับอีกฝ่ายเลย

" อย่างเรื่องที่เรียนก็ผมจะบ อกว่าเรียนอยู่มหาวิทยาลัยอื่นหรือคณะอื่น แต่สำหรับรูปที่ใช้จะเป็นดิสเพลย์พิคเจอร์ ซึ่งถือว่าสำคัญมาก เพราะบางคนถ้าไม่เห็นรูปจะไม่ยอมคุยด้วยเลย ส่วนผมถ้ามีคนแปลกหน้าแอดเขามาก็จะเอารูปคนอื่นมาเปลี่ยนทันที" ผไท เผยถึงเทคนิคการแชทเฉพาะตัว

ส่วนการนัดเจอกับเพื่อนแชท หนุ่มรายนี้ บอกว่า แม้จะเป็นผู้ชาย แต่จะไม่ขอไปเจอกันเองเด็ดขาด เพราะรู้สึกว่า "ไม่ปลอดภัย"

ข ณะที่ นครธรรม เจริญรูป อายุ 23 ปี หนุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยอีกคน บอกว่า จะเลือกคุยเฉพาะ "คนไทย" เพราะไม่รู้ว่าต่างชาติจะคิดกับเราอย่างไร อีกทั้งไม่ค่อยเก่งภาษาอังกฤษ

"ส่วนมากผมจะเลือกคุยก ับเพื่ อนวัยเดียวกัน และเป็นเพศตรงข้ามมากว่า ถ้าเป็นคนแปลกหน้าก็จะคุยด้วย แต่จะไม่จริงจัง ส่วนรูปที่โพสต์เอาไว้ผมไม่เคยเชื่อถือ เพราะคงไม่มีใครกล้าเอารูปจริงมาโพสต์ และส่วนมากเป็นรูปจากที่อื่นหรือรูปแต่งคอมพ์ เพราะทุกคนก็อยากดูดีเสมอ"

ห นุ่มแชทรายนี้ บอกถึงเทคนิคในการแชทว่า จะไม่บอกความจริงทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ ที่อยู่ ฯลฯ และไม่กล้านัดเจอกันด้วย เพราะไม่มั่นใจว่าคนที่คุยด้วยมีเจตนาบริสุทธิ์หรือไม่

" พ่อแม่ยังไม่รู้เลยว่า ผมชอบแชท แต่จะมีเพื่อนที่คอยเตือนอยู่เสมอ สำหรับผมจะแชทเพื่อหาเพื่อนคุยคลายเครียดมากกว่า และไม่อยากให้คนอื่นจริงจังกับการแชทมากไปจนลืมโลกแห่งความเป็นจริง" หนุ่มนักแชท ฝากทิ้งท้ายไว้ให้คิด

ปิดท้ายด้วย ลัดดาวัลย์ ดาษดื่น นักศึกษามหาวิทยาลัยรัฐชื่อดัง บอกว่า เธอจะคุยกับทุกคนที่แอดเข้ามาคุยด้วย ส่วนมากจะคุยกันในเรื่องทั่วไป และไม่ได้ปกปิดข้อมูลส่วนตัวแต่อย่างใด เพราะเห็นว่าข้อมูลอย่างอายุ ชื่อเล่น หรือที่เรียน ก็ไม่ได้มีความจำเป็นที่ต้องจะปิดบัง เพราะถ้าคู่สนทนามารู้ความจริงทีหลังว่าเราโกหกก็อาจจะทำให้รู้สึกไม่ดีหรือ ถึงขั้นเลิกคุยกันไปเลย

สำหรับเรื่องโพสต์รูปตัวเองน ั้น ลัดดาวัลย์ จะใส่บ้างในบางครั้ง แต่ส่วนมากจะไม่ใส่ โดยจะใส่รูปการ์ตูนน่ารักๆ เข้าไปแทน เพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย ส่วนรูปที่คู่สนทนาโพสต์ไว้นั้นก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง โดยจะพิจารณาดูว่าคุยกันนานแค่ไหนมากกว่า ถ้าคนที่คุยด้วยใช้รูปคนๆ เดิมมาตั้งแต่ครั้งแรกที่คุยกันจนกระทั่งคุยกันเป็นเวลานานแล้วยังใช้รูปคนเ ดิมก็น่าเชื่อว่าเป็นรูปของเขาจริงๆ

ลัดดาวัลย์ ยังเล่าถึงประสบการณ์นัดเจอกับเพื่อนแชทด้วยว่า เคยนัดเด็กรุ่นน้องที่เจอกันทางเอ็มเอสเอ็นคนหนึ่งมานานหลายเดือน แต่ครั้งนั้นไม่ได้ใช้ชื่อจริง และโกหกเรื่องที่เรียน โดยคุยกันเป็นประจำทุกวันจนสนิทสนมกันในระดับหนึ่ง จากนั้นก็นัดเจอกันในห้างสรรพสินค้า

"ตอนนั้นไปคนเดี ยว และรู้สึกกลัวมาก แต่พอพบกันแล้วก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เพราะเขาไม่ได้รูปร่างหน้าตาดีอย่างที่เห็นในรูปตอนคุยกัน ตอนนี้เราก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และยังคุยกันอยู่เป็นประจำ แต่ก็ยังไม่บอกความจริงเรื่องที่โกหกเขาไป" ลัดดาวัลย์ เล่าถึงประสบการณ์เจอเพื่อนแชทครั้งแรก

กระนั้น สาวนักแชทรายนี้ก็ฝากเตือนว่า "การนัดเจอกับคนแปลกหน้าเป็นเรื่องที่ไม่น่าเสี่ยงเลย เพราะอันตรายสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และถ้าให้นัดเจอกันอีกคงไม่ไปคนเดียวแน่นอน"

ทั้งหมด นั้นคือประสบการณ์ และอุทาหรณ์ของ "นักแชท" ที่อยากถ่ายทอด และแนะนำเพื่อเป็น "อุทาหรณ์" ไม่ให้นักแชทคนอื่นๆ ต้องมากลายเป็นเหยื่อของ "อาชญากร" ในโลกไซเบอร์

"เจ๊เบียบ" เตือนภัยไซเบอร์ แนะ ยกคอมพ์ไว้นอกห้อง

นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช รักษาการ ส.ว.ขอนแก่น ให้ความเห็นว่า คดีนี้ผู้ก่อเหตุมีความโหดเหี้ยมมาก จึงสมควรลงโทษให้หนัก โดยก่อนหน้านี้ก็เคยมีคดีหนุ่มชาวปากีสถานล่อลวงเด็กสาวชั้น ม.5 อายุ 17 ปี ไปข่มขืน หลังจากรู้จักกันทางอินเทอร์เน็ตได้ 3 เดือนจนฝ่ายหญิงเริ่มเกิดความรักใคร่

"ครั้งแรกที่นัดเจอกันฝ่ายชายได้แต่กอดจูบลูบคลำ โดยบอกว่ารัก และจะไม่ทำร้าย แถมให้สัญญาว่า จะพาไปอยู่ด้วยที่ประเทศบังกลาเทศ แต่พอนัดเจอกันครั้งที่สองฝ่ายชายก็พูดจาหว่านล้อมแล้วพาไปข่มขืนในโรงแรม จนผู้ปกครองเริ่มสังเกตเห็นว่า ฝ่ายหญิงมีอาการซึมผิดปกติ จึงเค้นถาม และรู้ความจริง ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาล" นางระเบียบรัตน์ กล่าวถึงภัยร้ายในโลกไซเบอร์

"พ่อของเด็กคนนี้มาพูดกับดิฉันว่า ตอนที่แม่เขาตายยังไม่เสียใจเท่ากับลูกสาวถูกหลอกไปทำมิดีมิร้าย และไม่น่าเชื่อว่า คำบอกรักของผู้ชายที่เพิ่งรู้จักเพียงคำเดียวเท่านั้น สามารถเผด็จศึกเด็กสาวได้ ดิฉันจึงเชื่อว่า น่าจะมีเด็ก และผู้หญิงไทยที่ถูกล่อลวงแบบนี้อีกหลายคน แต่ไม่มีใครกล้าออกมาเปิดเผย" นางระเบียบรัตน์ กล่าวด้วยความเป็นห่วง

รักษาการ ส.ว.ขอนแก่น มองว่า แม้เทคโนโลยีจะก้าวไปไกล และไร้พรมแดน แถมยังมีข้อดีในแง่ของการฝึกภาษา และได้แลกเปลี่ยนทัศนคติกัน แต่บางครั้งก็มีโทษ เพราะบางคนอาจถูกหลอกจนเคลิบเคลิ้ม ข้าวปลาไม่ยอมกินจนถึงขั้นที่เรียกว่า "เสพติดทางอารมณ์" จนก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาได้

ดังนั้น "ภูมิคุ้มกัน" ที่ดีที่สุดในเรื่องนี้ก็คือ "พ่อแม่" อย่าปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพัง

ส่วน "เครื่องคอมพิวเตอร์" อย่าเอาไว้ในห้องนอนของลูก เพราะถ้าอยู่ในนั้นเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าลูกกำลังทำอะไร และควรนำมาไว้ในที่ที่เราสามารถดูได้ว่าลูกกำลังเล่นอะไรอยู่

อัฐพนธ์ แดงเลิศ/สุดารัตน์ คำอาจ


komchadluek

แฉภัยร้าย "แชทไลน์" ลวงเด็กเสียสาว

จากกรณีที่ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา ได้ยื่นข้อเรียกร้องเกี่ยวกับการเล่นแชทไลน์ระบบออดิโอเท็กซ์ 1900-xxx-xxx ของเด็กและเยาวชนมายังกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.).."
แฉภัยร้าย "แชทไลน์" ลวงเด็กเสียสาว


ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
จากกรณีที่ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา ได้ยื่นข้อเรียกร้องเกี่ยวกับการเล่นแชทไลน์ระบบออดิโอเท็กซ์ 1900-xxx-xxx ของเด็กและเยาวชนมายังกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เพื่อให้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาแชทไลน์ หาเพื่อนเนื่องจากมีเด็กหญิงอายุประมาณ 15 ปีหายตัวออกจากบ้านภายหลังจากเล่นแชทไลน์สนทนากับบุคคลแปลกหน้า จึงกลายเป็นช่องทางให้อาชญากรใช้เป็นเครื่องมือในการล่อลวงเด็กหญิงมาล่วง ละเมิดทางเพศนั้น


ล่าสุด คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ ปลัด วธ. ได้สั่งการให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมด่วนที่สุด และให้ประสานไปที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ด้วย

ขณะที่ นายวรเชษฐ เขียวจันทร์ หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายฯ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ศูนย์ข้อมูลคนหายฯ เริ่มทำงาน เป็นศูนย์กลางรับแจ้ง ให้คำปรึกษาและแนะนำเกี่ยวกับคนหายในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปัจจุบันมีเด็กและเยาวชนหายตัวไปด้วยสาเหตุถูกล่อลวงจากการเข้าไป แชทไลน์ จากข้อมูลพบเด็กอายุเฉลี่ยเพียง 15 ปี หายออกจากบ้าน มากถึง 10 คนแล้ว

เ มื่อเร็วๆ นี้ ทางมูลนิธิคนหายฯได้รับแจ้งจากผู้ปกครองลูกของตนได้หนีหายออกจากบ้านไปโดย ไม่ทราบสาเหตุ จากการสอบปากคำปรากฏว่า ก่อนหน้าที่จะหายตัวออกจากบ้าน มีพฤติกรรมใช้โทรศัพท์ บ่อยจนผิดวิสัย เป็นผลให้ค่าโทรศัพท์บ้านแต่ละเดือนมียอดการใช้สูงหลายพันบาท ในใบแจ้งหนี้ยังระบุถึงค่าโทรศัพท์หมายเลขออดิโอเท็กซ์จำนวนมาก โดยตรงกับคำให้การของเพื่อนของเด็กที่ว่า มีพฤติกรรมติดต่อกับคนแปลกหน้า รู้จักกันทางโทรศัพท์ พูดคุยลักษณะเชิงชู้สาว ชักชวนออกมาพบกัน สุดท้ายนัดกับชายแปลกหน้าแล้วหายตัวไป ซึ่งตำรวจได้นำหมายเลขโทรศัพท์

ล่าสุดโทร.ตามหา พบว่ามีเด็กผู้ชายคนหนึ่งรับสาย มีเสียงเหมือนงานเลี้ยงจึงนำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่บ้านพบว่ามีการมั่วสุม กับกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมาก แม้ว่าเด็กจะเรียนจบ ม. 3 และไม่ได้เรียนต่อ แต่ยังคงมีพฤติกรรมชอบแชทไลน์และหายตัวจากบ้านหลายครั้ง

ที่มาจาก thaisafenet.org

วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2550

อัลบั้มภาพออนไลน์...เมื่อ สมบัติส่วนตัว กลายเป็นสาธารณะสมบัติ

?เราเองนะ...น่ารักมั๊ยคับ?
?ไบคับ ผม เหงา?

ข้อ ความในลักษณะนี้เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในอัลบั้มภาพออนไลน์ที่ให้ บริการผ่านทางเว็บไซต์สำหรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ต้องการนำรูปภาพของตน ขึ้นระบบอินเทอร์เน็ต และกำลังได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นเป็นอย่างมาก กระทั่งกลายเป็น ?สมบัติสาธารณะ? ที่ใครๆ ก็สามารถดูได้ มิหนำซ้ำยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมสามารถแสดงความเห็นและโหวตให้คะแนนได้อีก ด้วย


แต่ ที่น่าเป็นห่วงมากกว่านั้นก็คือ สิ่งที่ปรากฏในอัลบั้มภาพออนไลน์ไม่ใช่แค่ภาพธรรมดาๆ หากจำนวนไม่น้อยใช้ภาพที่แสดงถึงร่างกายของตนเพื่อดึงดูดความสนใจทางเพศ รวมถึงการลงข้อความที่แสดงถึงความต้องการมีเพศสัมพันธ์อีกด้วย

นราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ นักศึกษาปริญญาโท ภาควิชาการสื่อสารมวลชน คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างละเอียดไว้ในงานวิจัยเรื่อง ?การสร้างอัตลักษณ์ในอัลบั้มภาพออนไลน์? ซึ่งผลที่ออกมาได้สะท้อนให้เห็นถึงภาพตัวตนของวัยรุ่นและผู้คนกลุ่มหนึ่ง ได้อย่างที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว

**ตัวตนของคนขี้เหงากับความจริงที่ถูกบิดเบือน
นราธิปเล่า ให้ฟังว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลอัลบั้มภาพออนไลน์จำนวน 200 อัลบั้ม ในสามเว็บไซต์ที่มีจำนวนผู้ใช้บริการ และรูปภาพอยู่เป็นจำนวนมาก ได้แก่ www.keepalbum.com, www.jorjae.com (ปัจจุบัน www.jorjae.com ได้ปิดให้บริการลง และได้ย้ายชุมชนส่วนหนึ่งไปยัง www.truelife.net ) และ www.yenta4.com ได้บทสรุปที่น่าสนใจว่า การที่อัลบั้มภาพออนไลน์อนุญาตให้มีการตั้งชื่อ การคัดเลือกเพลง การสร้างภาพแทนตน หรือ การคัดเลือกตัวละคร การแต่งตัวให้ตัวละคร และการเลือกฉากต่างๆได้อย่างอิสระ เป็นการเปิดโอกาสให้เจ้าของอัลบั้มภาพออนไลน์แสดงถึงตัวตนที่แท้จริงของตน เอง

ทั้งนี้ ภาพที่ปรากฏในอัลบั้มภาพออนไลน์มักเป็นภาพที่ถ่ายด้วยตัวเอง (Self ? portrait) ซึ่งสามารถทำได้ด้วยคุณสมบัติการเห็นภาพก่อนถ่ายจริงของกล้องดิจิตอลหรือ ว่าโทรศัพท์มือถือ อีกทั้งการถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิตอลสามารถถ่ายใหม่ได้จนกว่าจะได้ภาพที่พอใจ

ที่ น่าสนใจก็คือ ภาพที่นำมาโชว์ส่วนใหญ่จะเลือกเฉพาะภาพที่ถ่ายออกมาแล้วดูดี ทำให้สิ่งที่นำเสนอเป็นเพียงความจริงแค่บางส่วน รวมทั้งมีการตกแต่งภาพก่อนนำภาพเข้าสู่อัลบั้มภาพออนไลน์ เช่นปรับแสง ใส่ตัวอักษร ใส่ลวดลายต่างๆให้กับภาพ และมีการตกแต่งอัลบั้มไปด้วยสีสัน การทำตัวอักษรกระพริบๆ การใช้ภาพเคลื่อนไหวต่างๆซึ่งเป็นการดึงดูดใจรูปแบบหนึ่ง

?จะ เห็นได้ว่าการคัดเลือกความจริงบางส่วน และการตกแต่งภาพ ทำให้ภาพที่ได้ไกลออกจากความจริง ผลจากงานวิจัยพบว่า ตัวตนในอัลบั้มภาพออนไลน์ เป็นการประกอบสร้าง การแปลงตัวตน หรือความเกินจริง ซึ่งไม่เหมือนกับตัวตนในโลกแห่งความเป็นจริง?นราธิปสรุป

สำหรับ กลุ่มคนที่เข้ามาใช้บริการอัลบั้มภาพออนไลน์ส่วนใหญ่มีอารมณ์อ่อนไหว โรแมนติก น่ารักสดใส มีมนุษย์สัมพันธ์ ทั้งยังมีการบรรยายถึงความรักของตนอีกด้วย ส่วนสิ่งที่พบรองลงมาคือ ความต้องการการยอมรับ เห็นได้จากการที่เจ้าของอัลบั้มภาพออนไลน์มักมีการขอคะแนนโหวตให้กับ อัลบั้มภาพออนไลน์ของตน ซึ่งคะแนนโหวตจะเป็นตัววัดการยอมรับจากชุมชนแห่งนี้หรือเป็นเครื่องมือ เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นอย่างการหาเพื่อน หรือหาคู่ แทบจะเป็นการใช้งานหลักของอัลบั้มภาพออนไลน์


**การแสดงออกทางเพศเกลื่อน
อย่าง ไรก็ตาม การหาเพื่อนหรือหาคู่รักในอัลบั้มภาพออนไลน์หลายครั้งก็คาบเกี่ยวกับการ แสดงออกถึงพฤติกรรมทางเพศ โดยใช้ภาพที่แสดงถึงร่างกายของตนเพื่อดึงดูดความสนใจทางเพศ รวมถึงการลงข้อความหาเพื่อนที่แสดงถึงความต้องการมีเพศสัมพันธ์ โดยในข้อมูลมักแสดงถึงรสนิยมทางเพศ(Sexuality) ไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มรักร่วมเพศ (Homosexuality) ซึ่งเห็นได้จากหมวดหมู่ที่ทางเว็บไซต์ได้แบ่งไว้ให้ เช่น ผู้ชายสีม่วง สตรีเหล็ก หรือชื่อที่ใช้ก็เป็นสิ่งที่บ่งบอกได้เหมือนกัน เช่น tomjawchoo, gayray และ dy_sad รวมถึงภาพที่แสดงอย่างการกอดจูบ หอมแก้ม และยังมีกลุ่มที่รักทั้งสองเพศ (Bisexuality) เห็นได้จากข้อความ เช่น ?ไบคับ ผม เหงา?

ส่วนความต้องการแสดงออกนั้น มีหลายระดับตั้งแต่ระดับความต้องการแสดงออกทั่วไป ไปสู่ระดับการเรียกร้องความสนใจ และระดับการแสดงออกทางเพศ ซึ่งหากความต้องการแสดงออกเหล่านี้มีมากจนเกินไป อาจพัฒนาไปสู่ ?พฤติกรรมชอบโชว์? ได้ โดยพบว่าในอัลบั้มภาพออนไลน์ที่ผู้ชายเป็นเจ้าของจะมีภาพที่มีการถอดเสื้อ ผ้า แสดงกล้ามหน้าอก กล้ามหน้าท้อง กล้ามแขน หรือแม้กระทั่งอวัยวะเพศอย่างน้อยหนึ่งภาพ เพื่อแสดงถึงความเป็นชายและหวังผลในการดึงดูดทางเพศ ส่วนในเพศหญิงจะเป็นการแสดงสัดส่วนต่างๆของเพศหญิง เช่น การแสดงเนินอก สะโพก เอว

ทั้งนี้ เจ้าของอัลบั้มภาพออนไลน์ที่เข้าข่าย ?โรคจิตชอบอวดอวัยวะเพศ? มักพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง ซึ่งจะมีทั้งแบบเห็นหน้าและไม่เห็นหน้า

?ใน อดีตพฤติกรรมชอบโชว์อวัยวะเพศจำกัดอยู่ในที่สาธารณะเท่านั้น โดยต้องมีการชั่งน้ำหนักระหว่างความกลัวกับความกล้าก่อนที่จะลงมือกระทำ ขณะที่ปัจจุบันสามารถแสดงพฤติกรรมดังกล่าวในที่ส่วนตัวแล้วอาศัยสื่ออย่าง อินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางในการเผยแพร่สู่พื้นที่สาธารณะได้โดยไม่ต้องกังวล? นราธิปให้ความเห็น


**ผันผ่านสู่พื้นที่สาธารณะ
นอก จากนั้น แทนที่ผู้ใช้บริการจะเลือกอัลบั้มภาพออนไลน์ในลักษณะของ อัลบั้มภาพส่วนตัว (Private album) ก็กลับกลายเป็นว่า อัลบั้มภาพสาธารณะ(Public album) ได้รับความนิยมเสียเป็นส่วนใหญ่

?จาก ที่ในสมัยก่อนนั้นเมื่อถ่ายภาพเสร็จแล้วก็มักจะเก็บภาพไว้ดูส่วนตัวหรือให้ คนรู้จัก หรือเฉพาะคนสนิทดูเท่านั้น ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากการเก็บภาพในอัลบั้มภาพส่วนตัวเป็นการเก็บแบบ สาธารณะซึ่งเปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถเยี่ยมชมได้ ซึ่งเป็นความต้องการของเจ้าของอัลบั้มภาพออนไลน์เอง?นราธิปอธิบาย

ขณะ เดียวกันนราธิปยับพบด้วยว่าหลายๆภาพมีฉากเป็นห้องนอน หรือแม้แต่กระทั่งห้องน้ำ ซึ่งน่าจะมาจากการที่ในปัจจุบันเทคโนโลยีสามารถพกพาไปได้ทั้งในพื้นที่ สาธารณะ และพื้นที่ส่วนตัว และบางเทคโนโลยีอย่างเว็บแคมเมร่าซึ่งติดอยู่กับคอมพิวเตอร์ก็มักอยู่ใน บริเวณห้องนอนด้วย ดังนั้น ภาพอาบน้ำในห้องน้ำ หรือภาพถ่ายนอนบนเตียงของตนเองจึงปรากฏด้วยเหตุผลดังกล่าว

เมื่อ ความเป็นส่วนตัวถูกเปลี่ยนผ่านสู่สาธารณะ ตัวตนของคนเหล่านี้จึงได้กลายสภาพเป็นสิ่งที่สาธารณะเช่นกัน หลายๆภาพที่ควรจะเป็นของส่วนตัวจึงกลายเป็นของสาธารณะที่ใครๆก็สามารถใช้ ประโยชน์ได้ ซึ่งต้องไม่ลืมว่าสิ่งที่เป็นสาธารณะย่อมสามารถถูกตีความ สร้างความหมายใหม่ หรือใช้ประโยชน์ได้ โดยที่เราไม่สามารถควบคุมได้เลยในเมื่อได้สูญเสียความเป็นเจ้าของไปแล้ว ตั้งแต่ภาพได้ไปปรากฏอยู่ในโลกของอินเทอร์เน็ต

?การ แสดงออกในพื้นที่สาธารณะและพื้นที่ส่วนตัวย่อมมีความแตกต่างกัน แต่ในเมื่อการแสดงออกในพื้นที่ส่วนตัวสามารถนำเสนอสู่พื้นที่สาธารณะได้ สิ่งที่ปรากฏอยู่บนพื้นที่สาธารณะอย่างโลกอินเทอร์เน็ตนั้นไม่ต้องคำนึงถึง กฎเกณฑ์การแสดงออกในที่สาธารณะดังเช่นพื้นที่อื่นๆ ดังนั้นความแตกต่างดังกล่าวจึงไม่สำคัญอีกต่อไป? นราธิปได้อธิบายถึงที่มาของปรากฏการณ์ดังกล่าวอย่างชัดเจน

**หรือจะเป็นพื้นที่ทางเลือก
ผล การวิจัยของนราธิปยังวิเคราะห์ด้วยว่า ปรากฏการณ์อัลบั้มภาพออนไลน์ถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ทางเลือกของผู้ที่ต้อง การปรากฏตัวต่อสาธารณะ เพราะในอดีตที่ผ่านมาผู้ที่จะปรากฏตัวผ่านสื่อสาธารณะได้จะต้องอาศัยทั้ง รูปร่างหน้าตาที่ดี และมีความรู้ความสามารถ ขณะที่โลกอินเทอร์เน็ตไม่ได้ต้องการถึงขนาดนั้น

ด้วย เหตุดังกล่าว เมื่อมีการเปิดพื้นที่ให้ปรากฏตัวผ่านอัลบั้มภาพออนไลน์ จึงสามารถตอบสนอง ความต้องการของคนที่ต้องการแสดงตัวต่อสาธารณะโดยมีผู้รับชมจำนวนมากและยัง อาจกำหนดขอบเขตผู้รับสารให้แคบลงได้ ด้วยการแบ่งหมวดหมู่ของทางเว็บไซต์ เช่น พนักงานออฟฟิศ คนไทยในต่างประเทศ เป็นต้น

ที่มาจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ

วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

วิธีปั่นหัวผู้ชาย.........สุดยอด

คุณ ผู้หญิงทั้งหลายคงจะรู้จักเว็บไซต์หาเพื่อน หาแฟนที่มีอยู่อย่างมากมายในปัจจุบันกันเป็นอย่างดี บางคนอาจจะรู้จักแต่ไม่เคยเล่น บางคนอยากเล่นแต่ไม่กล้าลอง หรือบางคนก็เล่นแล้วสมหวังแต่งงานมีความสุขกันไปก็หลายคู่ วันนี้ผมมีกลเม็ดเด็ดปั่นหัวหนุ่มๆ ชาวดอทคอม มานำเสนอคุณผู้หญิง ที่จะทำให้คุณเป็นหญิงในฝันของหนุ่มๆ กันเลยทีเดียว

1. เลือกเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือ
คุณ ผู้หญิงหลายคนที่ผมรู้จัก มักจะไม่ค่อยกล้าใช้บริการเว็บไซต์หาเพื่อน หาแฟน เพราะมักจะเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยของตนเอง ผมขอแนะนำว่าคุณควรเลือกเว็บไซต์ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วน ตัวสูง เว็บไซต์เหล่านี้จะไม่เปิดเผยข้อมูลสมาชิกให้ทราบกัน ไม่ว่าจะเป็นชื่อที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ฯลฯ นอกเสียจากคุณจะไปให้ข้อมูลกันเอง ซึ่งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณส่วนบุคคล คุณจึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกรบกวนจากบุคคลที่ไม่พึงปรารถนา


2. ให้ข้อมูล และรูปถ่ายตามความเป็นจริง
เมื่อ คุณตัดสินใจแล้วว่าจะใช้บริการเว็บไซต์หาเพื่อน หาแฟนจะผู้ให้บริการรายใดๆ แล้ว ขั้นต่อไปจะเป็นการสมัครสมาชิก ทั้งนี้คุณควรจะให้ข้อมูล และรูปถ่ายตามความจริง อย่าเมคกันจนหรูเลิศอลังการ หรือเอารูปคนอื่นมาใส่นะครับ เพราะถ้าหนุ่มๆ ที่คุณอยากเดทด้วยเค้าเกิดสนใจปิ๊งปั๊งคุณขึ้นมาจริงๆ ล่ะก็ พูดได้คำเดียว เป็นเรื่อง!!


3. หมั่นออนไลน์ สมัครสมาชิกแล้วอย่าทิ้งขว้างครับ
พยายาม เข้ามาออนไลน์ทุกครั้งที่มีโอกาส หนุ่มๆ หลายคนมักจะชอบคุยกับคนที่ออนไลน์อยู่ครับ เพราะว่าคุยได้ทันที ไม่ต้องทิ้งข้อความไว้แล้วรอให้เพื่อนสมาชิกเข้ามาออนไลน์แล้วจึงค่อยตอบ ดังนั้นการออนไลน์เสมอจึงเป็นการเพิ่มโอกาสให้ตัวเอง


4. เช็คเรทติ้ง
ตาม เว็บไซต์หาเพื่อนหาแฟนนั้น จะมีฟังค์ชั่นค้นหา คือ เป็นการค้นหาเพื่อนสมาชิกที่เราสนใจตามเงื่อนไขที่ให้คุณระบุได้ว่าคุณต้อง การจะหาเพื่อน หาคนรักที่มีลักษณะแบบใด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการครับว่าจะมีวิธีให้สมาชิกค้นหากันแบบใดบ้าง เช่น เพศ อายุ การศึกษา รูปร่างลักษณะ ความสนใจ ฯลฯ เมื่อคุณพบหนุ่มที่ถูกใจแล้ว ได้เวลาเช็คเรทติ้งกัน โดยการทิ้งข้อความแนะนำตัวแสนหวานฉ่ำ แกมออดอ้อนเล็กน้อยให้เค้าสนใจ อยากติดต่อกลับ ผู้ชายร้อยทั้งร้อยแพ้ความน่ารักของผู้หญิงกันทั้งนั้นแหละครับ และเมื่อหนุ่มของคุณติดต่อกลับมาแล้ว อย่ารีบตอบทันทีทุกครั้ง เว้นระยะให้เขาได้รอคอยบ้าง สร้างความตื่นเต้นให้กับเกมส์นี้ครับ


5. สร้างความน่าสนใจ น่าค้นหา
เดทออนไลน์ สำหรับใครหลายๆ คนเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น เพราะเป็นการพูดคุย ส่งข้อความถึงกันแบบที่ไม่เห็นหน้า สาวๆ ควรจะสร้างความน่าสนใจ น่าค้นหาให้กับตัวเองด้วยการไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวจนหมดเปลือกในทีเดียว ต้องกระตุ้นต่อมอยากรู้ของหนุ่มๆ ให้มากๆ โดยการค่อยๆ ให้ข้อมูลส่วนตัวของเราไปวันละนิด ให้เขารู้สึกว่าต้องเรียนรู้อะไรในตัวเราอีกมากมาย ช่วงเวลานี้เค้าจะสนใจคุณมากเพราะเขาจะเกิดอาการตื่นเต้น อยากรู้แต่เรื่องของคุณ


6. สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวเอง
หาก มีหนุ่มออนไลน์คนไหนเกิดมาปิ๊งคุณ แล้วคุณก็ปิ๊งเค้าขึ้นมาล่ะก็ มีวิธีทำให้เค้าติดกับคุณง่ายนิดเดียว เนื่องจากผู้ชายเป็นเพศที่ชอบการแข่งขัน ดังนั้นคุณควรจะบอกเค้าไปว่าคุณไม่ได้มีเค้ามาจีบแค่คนเดียวนะ มีหนุ่มๆในลู่วิ่งแข่งเดียวกับเขามากมายซึ่งคุณก็เปิดโอกาสให้กับทุกคน คราว นี่ถ้าเค้าเกิดสนใจคุณขึ้นมาจริงๆล่ะก็ เค้าก็จะเอาอกเอาใจคุณเต็มที่ เพื่อที่จะเอาชนะใจคุณให้ได้ แต่ระวังนิดนึงครับคือ คุณก็ต้องให้ความสนอกสนใจหนุ่มของคุณด้วย พยายามหยอดคำหวาน และให้ความหวังเขาบ้าง ไม่อย่างนั้นเค้าจะนึกว่าคุณไม่สนใจ และจะพาลเลิกติดต่อเอาง่ายๆ


7. ทำความเข้าใจมาตราฐานความคิดผู้ชาย
หนุ่มๆ มักมีความคิดเกี่ยวกับสาวๆที่เขาคบไว้ 2 แบบครับ คือแบบแรกคบจริงจังเพื่ออนาคตสามารถเป็นแม่ของลูกได้ ส่วนแบบที่สองคือคบไว้ให้ตื่นเต้นแบบเป็นเพื่อนบนเตียงชั่วครั้งชั่วคราว
คุณ ควรจะแน่ใจก่อนว่าเค้าและคุณต้องการคบกันแบบไหน เพื่อที่คุณทั้งคู่จะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลัง ทั้งนี้ถ้าคุณทั้งคู่เกิดอาการไม่คลิกกัน ผมว่าการคุยกันด้วยมิตรภาพที่ดีและจริงใจ น่าจะทำให้คุณเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันในอนาคตนะครับ

วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

[[การแชทในอินเตอร์เนตมีหลายแบบมาอ่านกันจ่ะ]]

[[การแชทในอินเตอร์เนตมีหลายแบบมาอ่านกันจ่ะ]]
Chat..หาแฟน = รูปไม่ต้องหล่อ.พ่อไม่ต้องรวย..สาวไม่ต้องหมวย..ไม่ต้องเซ็กส์ซี่..คารมดีก็พอแล้ว.เลยใช้เน็ตหาแฟนซะเลย.เผื่อฟรุ๊ค

Chat..หาเพื่อน = คนกลุ่มนี้ก็อาจจะเหงาใจ..ขาดความอบอุ่น..หรือไม่มีใครคบ..เลยมาหาเพื่อนทางเน็ต และระบายความในใจได้บ้าง..

Chat..ระบายอารมณ์ = โกรธใครมา..งอนใครมา..ทะเลาะกะแฟน..ทามไมมาลงที่กูวะ..อย่าตกเป็นเหยื่อคนพวกนี้นะครับพี่น้องทั้งหลาย

Chat..มาถาม = ไอ้โง่เอ้ย..หัดหาความรู้ใส่ตัวเอาเองบ้างดิ..ลงทุนหน่อยไปซื้อคู่มือมาอ่านบ้างซิว้อย..สักแต่ว่าถาม..

Chat..เพราะว่าง = อู้งานว..นายไม่อยู่..ตกงานคะ..เตะฝุ่นครับ..เรารู้ว่าแกว่างแกถึงมาเล่น..ประเทศชาติจะเจริญได้ไง..มีพวกบ้านี้อยู่

Chat..โชว์โฉม = พวกนี้เข้ามาไม่ทามอะไร..เข้ามาก็ใส่เลย..โหวตให้หน่อยนะคะพี่...ไปสมัครประกวดนางสาวไทยเลยนะยะหล่อน..

Chat..เล่นสคริป = มาเตะกันมะ..ลองคิปกันมะ..ไอ้บ้า..แกเล่นกันแล้วได้อะไร..คนอื่นๆ เขาจะหาแฟนกัน..ลำคาญฟระ..ไอ้บ้าคิป..

Chat..กองทะเบียน = ชื่ออะไร..บ้านอยู่ไหน..เรียนที่ไหน..อายุเท่าไหร่..สอบเข้าตำรวจ..หรือกองทะเบียนเลยนะ..ประเทศจะได้เจริญ..

Chat..มาหลับ = ง่วงมากเลย..อย่ามายุ่งนะ..ตอนนี้กำลังหลับ..แกจะมาเล่นทำอะไรง่ะ.ง่วงออกอย่างนี้..ก็ไปนอนซะก่อนซิยะ..

Chat..ทำงาน = ไม่รับซิบจ้า..ทำงานอยู่เลยนะครับ..ตกลงแกจะเล่นหรือแกจะทำงานยะ..เอาซะอย่างซิยะ..ออกไปทำงานก่อนไป..

Chat..หน้าหม้อ = หลีไปเรื่อย..มันไม่เห็นหน้าตรูนี่หว่า..ขอให้คารมตรูดีเกินร้อยก็พอ..สาวๆ เข้ามาติดกับดักตรึม..สาวๆ ระวังหน่อยเน้อ

Chat..มายิง = ตรูจะยิงเมิงทุกวันเลย..สนุกมากไม..ไอ้บ้าเอ้ย..เขาจะหาแฟนกันเสือกมายิงเขาทำไม..เก่งมากๆ ก็ไปเปิดห้องยิงกันเองซิวะ

Chat..มาด่า = คนกลุ่มนี้..มันเก็บกดมาจาก..เมีย..สามี..หรือจากไหนมาวะ..คนอื่นๆ ต้องมาคอยรองรับอารมณ์วิปริศของมันไปด้วย..

Chat..ใจบุญ = ใครโดนรังแก..โดนไวรัส..เขาจะรีบมาช่วยทันที..น่าชื่นชมนะ..ช่วยเหลือคนอื่นเขาไปหมด..ตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเลย

Chat..บ้า @ = พี่เจ้าของห้องอยู่ไม..ขอ @ หน่อย..ไม่ให้ @ ออกจากห้องนะ..ไอ้บ้า @ ไปไกลๆ เท้าเลย..ไม่ทำห่าอะไรเลยจะเอาแต่แอด

Chat..ขายตัว = เดี่ยวนี้เขาก้าวหน้าไปมากเลยนะ..ขายกันทางเน็ตนี่แหละ..ฉับไว..ทันใจดี..และห้องอย่างว่าคนโคตรเยอะเลยตัวเอง

Chat..บ้ากาม = อยากเซ็กส์..อยากเสียว..พวกอารมร์ทางเพศไม่ปกติ.อารมร์ค้างทั้งหลายไอ้บ้ากามแกทามไมไม่ไปบำบัดซะทีวะ...

ก้ากๆๆๆเก็บตกมาง่ะ

9 ข้อระวังในการแชท

9 ข้อระวังในการแชท 2007/07/17 20:45

1. ให้ระวังการตั้งชื่อในอีเมล์ และชื่อเล่นที่เราใช้งานในโปรแกรม เช่น อย่าตั้งชื่อที่แสดงถึงข้อมูลส่วนตัวจนเกินไป


2. ควรพูดคุยกับเพื่อนๆ ที่อยู่ใน Contact List ของเราเท่านั้น หากมีอีเมล์ที่เราไม่คุ้น หรือไม่รู้จักไม่ควรแอดเข้ามาใน Contact List เพราะอาจจะเป็นไวรัสก็ได้


3. อย่าให้อีเมล์ของเรากับคนแปลกหน้า หรือไปลงทะเบียนรับข้อมูลข่าวสารจากเวบไซต์ที่ไม่เหม าะสม เพราะคุณอาจได้รับสแปมเมล์ และถูกขโมยอีเมล์ หรือข้อมูลส่วนตัวได้


4. อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นหมายเลขบัตรเครดิต เบอร์โทรศัพท์ หรือที่อยู่ เป็นต้น


5. กรณีที่ตัดสินใจจะนัดพบคนแปลกหน้าที่รู้จักจากการแชต ห้ามไปตามลำพังโดยเด็ดขาด ควรพาเพื่อนหรือคนที่เราไว้ใจไปด้วย และบอกกับพ่อแม่หรือผู้ปกครองให้ทราบว่าด้วย ข้อสำคัญคือควรนัดเจอกันในที่สาธารณะ


6. อย่ารับไฟล์ภาพ หรือดาวน์โหลดไฟล์จากบุคคลที่คุณไม่รู้จัก


7. หากมีความจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ที่ไม่ใช่ของส่วนต ัว อย่างเช่น ในร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ คอมพิวเตอร์ที่โรงเรียน มหาวิทยาลับ อย่าได้เลือกฟังก์ชั่น Sign me in automatically และ Remember Password ในหน้าจอแรกโดยเด็ดขาด เพราะคนที่ใช้ถัดจากเราอาจจะนำเอาอีเมล์เราไปใช้ในทา งที่ผิดก็ได้


8. ถ้าเรามีลูกหลานที่เล่นแชตด้วย MSN ผู้ปกครองควรไปสมัครใช้บริการ MSN Premium IM ที่จะช่วยให้ผู้ปกครองทราบพฤติกรรมการแชท และมีสิทธิอนุญาตให้คุย หรือไม่ให้คุยกับอีเมล์ที่ต้องการแชตกับลูกของเราได้


9. ข้อนี้สำคัญมาก ควรระวังการแชตในขณะที่กำลังทำงาน (หรือเรียน) เพราะอาจจะทำให้เสียงานเสียการ หรือาจจะถูกตรวจสอบจากเจ้านายได้ เว้นเสียแต่ว่าคุณใช้ในทางสร้างสรรค์จริงๆ

" จับหนุ่มตกงานแชทลวงสาว "

" จับหนุ่มตกงานแชทลวงสาว "


คลิกที่ภาพเพื่ออ่านข่าวทั้งหมดจากเว็บ

ตำรวจ สน.บางเขน จับผู้ต้องหา ใช้สื่ออินเตอร์เน็ตลวงเหยื่อหญิงสาว พบทำมาแล้วหลายครั้ง ได้เงินกว่า 1.4 ล้าน รถยนต์ 1 คัน และบางรายถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์ สุดท้ายถูกรวบตัว ขณะนัดพบเหยื่อรายล่าสุด

เมื่อเวลา 13.00 วันนี้ (19 เม.ย.) ที่ สน.บางเขน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ศานุจารย์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.สมชาย อินโต รอง ผบก.น.2 พ.ต.ท.ภิญโญ ป้อมสถิตย์ สว.สส.สน.บางเขน ร.ต.อ.ประวิทย์ วงษ์เกษม รอง สว.สส สน.บางเขน แถลงข่าวจับกุมนายวุฒิรัตน์ หรือไอซ์ ลิ่มสอน อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/2 ม.7 ต.นพรัตน์ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญารัชดา เลขที่ 3238/2549 ลงวันที่ 21 ส.ค.49 โดยจับุมได้ที่บริเวณกลางซอยมหาดไทย (ลาดพร้าว 122 ) ถนนลาดพร้าว แขวงและเขตวังทองหลาง กทม.

พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากได้มี น.ส.อ๋อย (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความว่าถูกนายวุฒิรัตน์ ขโมยโทรศัพท์มือถือของตนไป โดยก่อนเกิดเหตุ ตนได้รู้จักกับนายวุฒิรัตน์ ทางโปรแกรมเอ็มเอสเอ็น โดยนายวุฒิรัตน์ใช้อีเมล์ I_AM_SCB_CITY@hotmail.com หรือ I_AM_CITY_SCB@hotmail.com เข้ามาคุยกับตน ต่อมาช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ ตนได้พบกับนายวุฒิรัตน์โดยบังเอิญ ขณะไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านรังสิต พร้อมกับเข้ามาตีสนิทกับตน โดยมีการมอบนามบัตรระบุว่าเป็นพนักงานตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิเคราะห์หลัก ทรัพย์และแนะนำการซื้อขาย ขอธนาคารไทยพาณิชย์ ให้กับตนเอาไว้

น.ส.อ๋อย ให้การต่อว่า หลังจากนั้นในวันรุ่งขึ้น นายวุฒิรัตน์ ได้นัดตนออกไปกินข้าวที่ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว พร้อมทั้งพยายามชักชวนตนไปที่ห้องพัก ภายในซอยมหาดไทย แต่ตนปฏิเสธไม่ยอมไป จึงเปลี่ยนมานั่งกินโจ๊กที่ตลาดรามอินทรา กม.2 แทน โดยขณะกำลังที่นั่งกินอยู่นั้น นายวุฒิรัตน์ก็ทำทีขอยืมโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อโนเกีย รุ่น 6270 ของตน แล้วพยายามหลอกล่อให้ตนออกไปซื้อของให้ จากนั้นนายวุฒิรัตน์ก็เดินถือโทรศัพท์มือถือของตนเดินหายไปเลย ตนจึงเดินทางมาแจ้งความที่ สน.บางเขน

พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของ สน.บางเขน ได้นำนามบัตรของนายวุฒิรัตน์ มาตรวจสอบชื่อ-นามสกุล ก็พบว่าเป็นผู้ต้องหาที่มีหมายจับในคดีอื่นของ สน.บางเขนอยู่ ในวันนี้เวลา 09.00 น. จึงติดตามจับกุมตัวนายวุฒิรัตน์ ได้ที่บริเวณกลางซอยหมาดไทย (ลาดพร้าว 122 ) ถนนลาดพร้าว แขวงและเขตวังทองหลาง กทม.ขณะที่ผู้ต้องหากำลังล่อลวงเหยื่ออีกรายมาพบในซอยดังกล่าว จากนั้นจึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่สน.บางเขน

จากการสอบสวนนายวุฒิรัตน์ ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุจริงโดยจะลวงเหยื่อที่รู้จักกันทางอินเตอร์เน็ต ที่ตนเข้าไปหาอีเมล์ในเว็บไซต์ www.mthai.com จากนั้นจะนำอีเมล์ที่ได้มาแอดเข้าไปคุยกันในโปรแกรมmsn เมื่อพูดคุยกับเหยื่อจนถูกคอก็ชักชวนกันไปเที่ยว โดยจะนัดพบกันตามร้านอาหาร ซึ่งเมื่อเจอหันครั้งแรกก็จะอ้างตัวว่า เป็นลูกชายของเจ้าของโรงพยาบาล และทำงานเป็นพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ พร้อมทั้งทำนามบัตรปลอมในตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิเคราะห์หลักทรัพย์และแนะนำ การซื้อขาย ไว้หลอกเหยื่อเพื่อให้ตายใจ

นายวุฒิรัตน์ ให้การต่อว่า เมื่อเจอกับเหยื่อครั้งแรก ก็จะทำตัวเป็นคนมีฐานะดี คอยออกค่าใช้จ่ายต่างๆให้ จนเหยื่อหลงเชื่อ บางรายถึงขั้นยอมมีความสัมพันธ์ทางเพศด้วยกัน ต่อมาก็จะอ้างว่า ตนมีปัญหาทางการเงิน หมุนเงินไม่ทัน จะขอยืมเงินจากเหยื่อโดยให้โอนเงินเข้าบัญชีของธนาคารไทยพาณิชย์ที่ตนเปิด บัญชีไว้ หากผู้เสียหายไม่มีเงินสด ก็จะขอยืมทรัพย์สินไปจำนำ หรือบางครั้งก็จะขโมยทรัพย์สินของเหยื่อไปขายหรือจำนำ ก่อนจะนำเงินที่ได้ไปเที่ยวเตร่ตามผับ โดยในแต่ละคืนจะใช้เงินประมาณ 2,000-3,000 บาท

นายวุฒิรัตน์ ให้การต่อว่า ก่อนหน้านี้เคยศึกษาอยู่ระดับ ปวช.ปี 1 ที่สถานบันการศึกษาแห่งหนึ่งย่านบางเขน แต่เรียนไม่จบ ไม่มีงานทำ จึงหันมาใช้วิธีดังกล่าวหาเงินใช้ โดยตนเคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 คดี ในท้องที่ต่าง ๆ ได้ทรัพย์สินมาประมาณ 2 ล้านบาท แต่จำไม่ได้ว่าผู้เสียหายมีใครบ้าง เพราะจะตระเวนก่อเหตุไปเรื่อย บางครั้งก็จะหลอกทีละ 2-3 รายพร้อมๆ กัน โดยเท่าที่จำได้มีอยู่ 4 ราย รายแรกประมาณเดือน พ.ย.49 หลอก น.ส.วิลาวรรณ (นามสมมติ) ได้เงินสดไปประมาณ 1.4 ล้านบาท และรถยนต์อีก 1 คัน เหตุเกิดท้องที่ จ.อยุธยา และ สน.บางเขน ต่อเนื่องกัน

รายที่สองเมื่อเดือน ธ.ค.49 หลอก น.ส.ศศิธร (นามสมมติ) พนักงานขายโทรศัพท์ของบริษัทแห่งหนึ่ง โดยให้เอาโทรศัพท์มาให้ 20 เครื่อง รวมมูลค่าประมาณ 200,000 บาท จากนั้นตนก็เอาไปขายต่อ เหตุเกิดท้องที่ สภ.ต.พัทยา และ สน.ลาดพร้าว เกี่ยวเนื่องกัน รายที่ 3 เดือน ก.พ.50 ได้ลักเอาเงินสดของ น.ส.ปุ๊ก (นามสมมติ) ประมาณ 25,000 บาท หลบหนีไป เหตุเกิดท้องที่ สน.บางเขน และรายล่าสุดเมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2550 ได้หลอกลวง น.ส.นุช (นามสมมติ) ให้โอนเงินประมาณ 70,000 บาทมาให้ เหตุเกิดท้องที่ สน.บางเขน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาลักทรัพย์ และพยายามกรรโชกทรัพย์ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

www.saijai.net โทร.0-2886-9991

" เตือนพ่อแม่ระวัง โจ๋ไทย "ติดเซ็กส์" โทรศัพท์ -เน็ตฯ ตัวอันตราย!! "

" เตือนพ่อแม่ระวัง โจ๋ไทย "ติดเซ็กส์" โทรศัพท์ -เน็ตฯ ตัวอันตราย!! "


คลิกที่ภาพเพื่ออ่านข่าวทั้งหมดจากเว็บ

เทคโนโลยีทำ สังคมไทยป่วน วัยรุ่นไทยเลือกใช้ "โทรศัพท์ - อินเทอร์เน็ต" เป็นช่องทาง ติดต่อเพศตรงข้าม มูลนิธิกระจกเงา ชี้สถิติเด็กสาว หายตัว 2 ปี กว่า 200 คน ขณะที่บางส่วน ถูกตามตัวกลับบ้าน แต่กลายเป็น เด็กมีพฤติกรรม "ติดเซ็กส์" แทน ด้านจิตแพทย์ ระบุ "เซ็กส์โฟน - แชทไลน์" ไม่ใช่โรคจิต

ข่าว การทลายเข้าไปจับกุม สาวๆที่ทำหน้าที่ "บำบัดความใคร่" ให้กับสมาชิกผ่าน เครื่องรับโทรศัพท์ หรือที่รู้จักกันว่า "เซ็กส์โฟน"เมื่ออาทิตย์ ที่ผ่านมานั้น ถือเป็นการเปิดมุมมืด ของสังคม ให้ผู้คนทั่วประเทศ ได้รับรู้อีกมุมหนึ่ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว "มุมมืด" ในสังคมที่ยัง ไม่มีการทลาย ยังมีอีกมากมาย

เจาะกลุ่ม แชทไลน์ 1900

เอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ซึ่งเป็นหน่วยงาน ที่ติดตาม สืบเสาะการหายตัว ของกลุ่มวัยรุ่นหญิง บอกกับ "ผู้จัดการรายสัปดาห์" ว่าจากการเก็บข้อมูล ของมูลนิธิมา ตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบันพบว่า มีเด็กผู้หญิงวัยรุ่น หายตัวไปจากบ้าน มากกว่า 200 ราย โดยเยาวชนส่วนใหญ่ ที่หายตัวไปนั้น มีอายุเฉลี่ย ประมาณ 15 - 18 ปี ในจำนวนนี้ หายตัวไปหลังจาก การเข้าไปใช้บริการ ออดิโอเท็กซ์ ประเภทแชทไลน์ (1900) ด้วยบางส่วน

" เดิมนั้น เราไม่ได้สืบเสาะ หาสาเหตุของการหายตัวไป ของเด็ก แต่หลังจาก ที่มีสถิติเพิ่มขึ้น เรื่อยๆ ทำให้เราต้องหาสาเหต ุที่แท้จริง เพื่อจะได้มีการแก้ไขปัญหานี้ อย่างชัดเจน ซึ่งจากการที่เราเข้าไป สืบหาข้อมูล พบว่าเด็กที่หายตัวไป ส่วนใหญ่จะใช้ "แชทไลน์" ก่อนทั้งสิ้น " หลังจากที่ หาสาเหตุพบ ทำให้มูลนิธิกระจกเงา เริ่มลงลึกถึงปัญหา จนทำให้รู้แน่ชัดว่า เด็กสาวที่หายตัว ออกไปจากบ้าน นั้นมีการติดต่อกับ "บุคคลแปลกหน้า" โดยผ่านช่องทาง "แชทไลน์" จึงได้มีการติดตาม สืบเสาะเด็กที่หายตัวไป จนในที่สุด ก็ตามตัวพบ

เอกรัตน์บอกว่า เด็กที่หายตัวไปนั้น ส่วนใหญ่จะมีครอบครัว ที่ไม่อบอุ่นพ่อแม่แยกทางกัน หรือแม้แต่พ่อแม่ ทำงานจน ไม่มีเวลาให้กับลูก เด็กจึงขาดความอบอุ่น และต้องการ "คนที่เข้าใจ" จึงหาทางออก โดยการเข้าไปพบปะพูดคุย กับคนแปลกหน้า และเด็กก็เลือก ช่องทาง "แชทไลน์ 1900" ซึ่งมีโฆษณา มากมาย ผ่านหนังสือ นิตยสาร ฯลฯ

โดยกลุ่มเด็กหญิง ที่เข้าไปใช้บริการแชตไลน์นั้น มีฐานะระดับปานกลาง ขึ้นไป น่าตกใจ บางราย เป็นลูกคนใหญ่คนโต ที่เป็นที่รู้จัก ในบ้านเมือง ลูกนายทหาร ลูกข้าราชการ นักเรียน นักศึกษามหาวิทยาลัย ฐานะทางบ้านดี เรียนเก่ง ไม่น่าใช้บริการหาเพื่อนคลายเหงา หรืออยากมีเพศสัมพันธ์ กับคนแปลกหน้า เด็กสาวบางรายหลอก ขอเงินพ่อแม่โอนมาให้ ผู้ชายที่รู้จักทางแชตไลน์ เป็นเงิน 1 หมื่นบาท โดยพื้นที่ที่มีเบอร์โทรศัพท์ เข้าไปใช้บริการแชตไลน์ มากที่สุด ได้แก่ ย่านเขตธนบุรี บางแค

"เด็กๆที่เข้าไปใช้บริการ จะใช้ช่องทางแชทไลน์ ติดต่อกันไม่กี่วันจากนั้น จะให้เบอร์โทรศัพท์มือถือกัน พูดคุยกันสร้างความสนิทสนม ไม่เกินหนึ่งวัน ก็จะนัดเจอตัวกัน โดยมีจุดนัดพบหลายแห่ง ซึ่งที่นิยมที่สุดก็จะเป็น ห้างสรรพสินค้าต่างๆ"

ผู้ที่เข้าไปใช้ บริการแชทไลน์ นั้น จะมี 2 กลุ่ม คือกลุ่มเด็กวัยรุ่น ซึ่งส่วนใหญ่ จะเป็นเด็กผู้หญิง และกลุ่มผู้ชาย ซึ่งมีความประสงค์เดียว คือ "เข้ามาหาเด็ก" เพราะเท่าที่มีการตรวจสอบ พบว่าผู้ชายที่เข้ามาใช้ บริษัทนี้ จะมีอายุเฉลี่ย 23-30 ปี ที่สำคัญผู้ชายกลุ่มนี้ ส่วนมากจะมีงานทำ และมีเงินพอที่จะเป็น "เจ้ามือ" ทั้งเลี้ยงข้าว ดูหนัง ฟังเพลง และสุดท้ายคือ จ่ายค่าโรงแรม

เอกรัตน์บอกว่า จากการที่เราติดตาม ตัวเด็กกลับมา และได้สอบถาม ถึงสาเหต ุเด็กจะบอกว่าเหงา ต้องการคนเข้าใจ ซึ่งกลุ่มเพื่อนๆ ที่แชทไลน์นั้น คือสิ่งที่เด็กๆ พวกนี้ตามหา เพราะคนพวกนี้ จะสามารถรับฟังปัญหาต่างๆ และมีวิธีการที่จะชักจูง ให้เด็กๆ โอนอ่อนผ่อนตาม ได้โดยง่าย "ที่น่าตกใจมีเด็กรายหนึ่ง หายออกจากบ้าน ไปกับคนแปลกหน้าที่รู้จัก ทางโทรศัพท์ 1900 ถึง 8 ครั้ง และไม่ซ้ำหน้ากัน ทั้ง 8 ครั้ง แสดงถึงครอบครัว ขาดความอบอุ่น พ่อแม่ไม่มี เวลาดูแลลูก ให้เงินเลี้ยงดูลูก"

เอกรัตน์ อธิบายอีกว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วง และควรจะได้รับการแก้ไข อย่างเป็นระบบ คือเด็กๆ ที่ทางเรา ร่วมกับตำรวจ ปดส. ตามตัวกลับมา แล้วส่งกลับบ้านทุกคน จะกลับเข้าสู่วงจรเดิมๆ อีกเพราะตัวเด็ก เองนั้น ได้กลายเป็นคน "ติดเซ็กส์" ไปเสียแล้ว คือคิดว่าการมีเพศสัมพันธ์นั้น คือความสุข ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก

"เด็กผู้หญิง ที่เราติดตามตัว กลับมาได้ เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ กลายเป็นเด็กติดเซ็กส์ มองเรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องปกติ ทั้งๆ ที่เด็กพวกนี้ มีอายุแค่ 14-18 ปี เท่านั้น ที่สำคัญเด็กพวกนี้ ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ กับผู้ชายคนเดียวเท่านั้น แต่มีการสลับสับเปลี่ยน หมุนเวียนกันไป ตามแต่เขาจะติดต่อ กลุ่มไหนได้ บางครั้งเมื่อเรา ติดตามไปถึงแหล่งมั่วสุม ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือบ้าน ของผู้ชายจะพบ เด็กวัยรุ่นชายหญิง เป็นกลุ่มๆ รวมกันอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่ ก็คือกลุ่มเพื่อนที่พบกัน ในแชทไลน์นั่นเอง"

ปัญหาดังกล่าวนี้ แม้จะมีการพูดคุยกันมานาน แต่กลับไม่มีการปฏิบัติกัน อย่างจริงจัง ทำให้ปัญหาต่างๆ ดังกล่าวนี้ยังคงอยู่ต่อไป ซึ่งมูลนิธิกระจกเงา ได้เสนอมาตรการ ในการแก้ไขปัญหานี้ ด้วยการเสนอมาตรการ 5 ข้อ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่

1. มีมาตรการตรวจสอบ และติดตามมีการปฏิบัติ ตามสัญญาจริง

2.ลงทะเบียนก่อนเข้าใช้ บริการแชตไลน์ เพื่อตรวจสอบ คุณสมบัติ ผู้เข้าใช้บริการ เช่น ตรวจสอบ เลขที่บัตรประชาชน

3.มีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ โดยสุ่มฟังสนทนา เพื่อไม่ให้ใช้ถ้อยคำ ที่ส่อไปทางลามกอนาจาร ถ้าพบใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม ตัดสิทธิใช้บริการทันที

4.ระวังข้อความ และรูปภาพที่ไม่เหมาะสม ในการโฆษณาเชิญชวน ใช้บริการแชตไลน์ ตามเว็บไซต์ สื่อโฆษณาอื่นๆ

และ 5.มีมาตรการลงโทษ ผู้ประกอบการ ตามกฎหมาย ถ้าพบว่า ไม่ทำตามสัญญา

"มาจนถึงปัจจุบันนี้ มาตรการแก้ไขปัญหา ที่เราเสนอไปนั้น ยังไม่มีการนำมาปฏิบัติ อย่างจริงจัง ทำให้ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ยังคงดำรงอยู่ ผมเชื่อว่าคนในสังคม ไม่น้อย ที่คิดว่าเรื่องเซ็กส์ เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ถ้านำเรื่องเซ็กส์ มาผู้ติดกับธุรกิจ เซ็กส์ กลายเป็นสินค้าแล้ว สังคมไทยเรา จะดำรงอยู่ได้อย่างไร" เอกรัตน์กล่าว

แชท ออนไลน์ก้าวไกล สู่อินเตอร์

ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสาร ที่ทันสมัยในยุคนี้ การเข้าไปเล่นแชทไลน์ อาจจะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมบ้านเรา แต่เพราะเทคโนโลยีดิจิตอล นี่เองที่ได้นำเอา "ช่องทาง" การติดต่อกับคนแปลกหน้า เข้ามามากมายหลายช่อง ทางโดยผ่าน โปรแกรมสนทนาต่างๆ เริ่มจากยุคแรกๆ คือเพิร์ซ ไอซีคิว รวมถึงห้องแชตรูม ของเว็บไซต์ต่างๆ และปัจจุบันโปรแกรม MSN กำลังได้รับ ความนิยมจากบรรดา "นักแชต" จากทั่วโลก

การใช้สื่อออนไลน์ ในการพูดคุย กับคนแปลกหน้า ในปัจจุบันนี้ถือเป็นเรื่องที่น่า จับตามองเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกรณี ที่มี "จิ้งจอกสังคม" ใช้คอมพิวเตอร์ หรืออินเทอร์เน็ต เป็นเครื่องมือ ในการหลอกลวงหญิงสาว ไปข่มขืน และชิงทรัพย์ ซึ่งปรากฎเป็นข่าว ตามหน้าหนังสือพิมพ์ อย่างต่อเนื่อง

รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ คณะคุรุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เปิดเผยข้อมูล การวิจัยที่ศึกษา มานานกว่า 10 ปี ระบุว่า สังคมไทยมีโอกาส เสียอนาคต เพราะเยาวชน ในอัตรา 2 ใน 5 มีปัญหาหลงใหล วัตถุนิยม สื่อลามก ภัยทางเพศ เกมคอมพิวเตอร์ มีปัญหาความรุนแรง ซึ่งเป็นผลมาจากไทย มีโครงสร้างเป็นสังคมเปิด เกิดการหลั่งไหล ทางวัฒนธรรม ในขณะที่สภาพสังคม และครอบครัวอ่อนแอ จึงตั้งรับไม่ทัน นอกจากนี้ ยังเกิดจากการแข่งขันในสังคม โดยผู้ปกครองร้อยละ 70-80 เน้นให้บุตรเรียนเก่ง จึงส่งไปเรียนพิเศษ และเมื่อเวลาว่าง เด็กนิยม เล่นเกมคอมพิวเตอร์ จึงขอเรียกร้อง ให้ทุกฝ่ายตระหนัก ถึงปัญหานี้ และขอให้สภาร่างรัฐธรรมนูญ ร่างรัฐธรรมนูญลงโทษ ผู้ที่ไม่บังคับใช้กฎหมาย อย่างแท้จริง หลังจากที่ปัจจุบัน พบว่าเจ้าหน้าที่ หละหลวมในการเอาผิด ในคดีเด็ก เยาวชน

"จากสถิติพบว่า ปัจจุบันเด็ก ที่ใช้อินเทอร์เน็ต มีเพียงร้อยละ 20 ที่ใช้เพื่อหาวิชาความรู้ แต่ร้อยละ 80 ใช้ทำอย่างอื่น และร้านเกม ยังเป็นแหล่งมั่วสุม เกิดปัญหาเด็กเร่ร่อน เด็กหลายราย ไม่ยอมกลับบ้าน กลายเป็นเด็ก เร่รอนเทียม เป็นจำนวนมาก"

รศ.ดร.สมพงษ์ระบุอีกว่า โลกดิจิตอลนี้ สามารถติดต่อกันได้ทั่วโลก ดังนั้นคนที่เข้าไปสู่ โลกอินเทอร์เน็ตจึงมีโอกาส ติดต่อกับโลกภายนอกมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่แฝงมานี้ ก็มีอันตรายเพิ่มมากขึ้นด้วย ดังนั้นเรื่องนี้ทุกฝ่าย ควรจะหันมาให้ความสนใจ และร่วมมือร่วมใจกัน หาทางป้องกัน กันอย่างจริงจังเสียที

จิตแพทย์ชี้ "เซ็กกส์โฟน" ไม่ใช่โรคจิต

ในเรื่องเดียวกันนี้ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความเห็นว่า ในการเข้าไปใช้แชทไลน์ โดยเฉพาะในส่วนของ เซ็กส์โฟนนั้น ในเชิงจิตวิทยา จะจำแนกกลุ่มผู้ใช้บริการ ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่โทร. ไปรับบริการ จากหน่วยที่ให้บริการ โดยไม่ได้มีอาการป่วยทางจิต ซึ่งจัดเป็นกลุ่มคนที่ต้องการ ได้รับสิ่งเร้าให้เกิด ความต้องการทางเพศทางเสียง เหมือนกับสิ่งเร้ารูปแบบอื่นๆ ทั้งภาพอย่างรูปโป๊ ภาพเคลื่อนไหว วีดีโอคลิป การสัมผัส และกลิ่น ที่ช่วยให้เกิด การเร้าอารมณ์ จนถึงจุดสุดยอด โดยเพศชาย จะถูกกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ ได้ง่ายจากสิ่งเหล่านี้ เป็นเรื่องปกติ

ส่วนกลุ่มที่ 2 ที่โทรศัพท์ ไปเซ็กซ์โฟน กับบุคคลที่ไม่รู้จัก หรือโทร.สุ่มมั่ว จะเข้าข่ายมี ปัญหาทางสุขภาพจิต เป็นกลุ่มมีความผิดปกติทางเพศ เรียกว่า กลุ่มโรคพาลาฟิลเลีย (Paraphilias) หรือ กามวิปริต เช่นเดียวกับบุคคล ที่ชอบถ้ำมอง ถูไถ ขโมยกางเกงใน และพวกชอบ ความรุนแรงทางเพศ หรือซาดิสต์ คนกลุ่มนี้ใช้ กิจกรรมอื่นทดแทน การมีเพศสัมพันธ์ ในช่องทางปกติ เช่น การมีเซ็กซ์ กับภรรยา ซึ่งกลุ่มนี้อาจเป็นส่วนน้อย ที่โทรศัพท์ใช้บริการ แต่กลับชอบเซ็กซ์โฟน แบบสุ่มมั่ว เพราะได้รับความตื่นเต้น เร้าใจ และลุ้นปฏิกิริยา ของผู้ที่รับโทรศัพท์ เพราะไม่สามารถคาดเดา ผลที่จะเกิดขึ้นของฝ่ายตรงข้าม สำหรับผู้ให้บริการ หากทำเป็นอาชีพ ตามบทบาทหน้าที่ เป็นเพียงการแสดงอย่างหนึ่ง เพื่อให้ได้รับค่าตอบแทน ไม่มีอารมณ์ร่วม ไม่จัดว่าเป็นผู้ป่วยทางจิต

"ที่น่ากลัว คือ เยาวชน ที่เริ่มมีความสนใจเรื่องเพศ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ของฮอร์โมน จะสนุกสนาน กับการพูดคุยเรื่องเพศ ผ่านทางโทรศัพท์ อาจทำให้เยาวชนติด การพูดคุยในเรื่องนี้ผ่านโทรศัพท์ จนต้องการรู้ในเพศตรงข้าม ที่ตนไม่เคยรู้ จนเกิดอารมณ์ร่วมหลัง และติดในเรื่องเพศ"

สำหรับการให้บริการเซ็กซ์โฟน ในต่างประเทศ มีการเปิดให้บริการ อย่างโจ่งแจ้ง เป็นอาชีพที่สร้างกำไร อย่างมาก เพื่อใช้เป็นทางออก ให้กับคนที่มีปัญหาทางเพศ เนื่องจากเชื่อมั่นว่า คนในประเทศมีวุฒิภาวะมากพอ ในการที่จะแยกแยะ สำหรับประเทศไทย ปัจจุบันยังไม่เหมาะสม ที่จะเปิดเสรีเช่นนั้น ด้วยเพราะเยาวชนไทย มีวุฒิภาวะด้านอารมณ์เพศไม่ดี รวมทั้งในการใช้โทรศัพท์ ยังไม่สามารถจำแนกแยกแยะ ผู้ใช้โทรศัพท์ได้

www.saijai.net โทร.0-2886-9991
ที่มาข่าวจาก ผู้จัดการรายสัปดาห์ 5 กรกฎาคม 2550 07:59 น.

วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

เคล็ดไม่ลับในการหาเพื่อนคุยจากอินเตอร์เน็ตให้ได้ผล

เคล็ดไม่ลับในการหาเพื่อนคุยจากอินเตอร์เน็ตให้ได้ผล (โดยใช้โทรศัพท์ )
คุณเคยได้รับปัญหาแบบนี้หรือไม่
  1. หาเพื่อนคุยที่จริงใจ(จากอินเตอร์เน็ต)ไม่ได้ซักที
  2. เอาเบอร์ตัวเองโพสแล้วเขาโทรมานาทีเดียวก็วางหูไป
  3. คุยกะเขาแค่วันเดียวเขาก็ไม่ติดต่อมาอีกเลย
  4. อยากคุยกะคนต่างเพศแท้ๆดันมีคนเพศเดียวกะคุณโทรมา?
  5. โพสกระทู้ได้ไม่กี่วันแล้วโดนลบ(สังเกตได้จากคนที่ติดต่อเข้ามาในแต่ละวันค่อยๆหายไปผิดสังเกต)
  6. ฯลฯ
จากประสบการณ์ของเราที่เคยโพสเบอร์หรือรูปฯลฯตัวเอง เพื่อหาเพื่อนคุยนั้นพบว่าเกิดปัญหาต่างๆที่ได้กล่าวมานี้ทุกอย่าง จึงได้หาวิธีแก้ไขจนประสบความสำเร็จได้ในระดับหนึ่งที่น่าพอใจ และยินดีที่จะนำมาเผยแพร่เป็นวิทยาทานแก่ทุกคนหวังว่าคงเป็นประโยชน์แก่ท่านไม่มากก็น้อย ก่อนอื่นเรามาทราบศัพท์เฉพาะที่เรากำหนดไว้ก่อน
  1. ผู้รุก หมายถึง ผู้ที่อ่านกระทู้แล้วสนใจและนำเบอร์โทรฯหรืออีเมล์ ฯลฯ ที่ได้ไปติดต่อเพื่อทำความรู้จักกับคนที่ตั้งกระทู้นั้นๆ
  2. ผู้รับ หมายถึง ผู้ที่ตั้งกระทู้เพื่อให้คนที่สนใจในกระทู้ของตนติดต่อเข้ามา ผู้รับมี2ประเภทใหญ่ๆ
    2.1 อยากมีเพื่อนคุยจริง ๆ คือ บุคคลที่ “คาดหวัง” ว่าคนที่ติดต่อมาจะติดต่อมายังไง ก็ได้ยินดีต้อนรับด้วยความจริงใจ ยกตัวอย่างข้อความที่โพสโดยบุคคลประเภทนี้ คือ "เหงาครับ/ค่ะ อยากมีเพื่อนคุย แชท" เป็นต้น
    2.2 มีเพื่อนคุยก็ดีหรือไม่มีก็ไม่เป็นไร คือ วางเงื่อนไขกับตัวเองมากกว่าประเภทแรก (ข้อ 2.1) ยกตัวอย่างข้อความที่โพสโดยบุคคลประเภทนี้คือ "ใครรู้ตัวว่าเหงาติดต่อมาได้" เป็นต้น
  3. ผู้ที่เป็นทั้งผู้รุกหรือผู้รับ หมายถึง ผู้สามารถกระทำได้ทั้ง ข้อ 1 และข้อ 2

วิธีการตั้งกระทู้ให้โดนใจ

1. ตั้งหัวข้อรายละเอียดเรียบง่ายตามสไตล์ของตัวเอง
2. ถ้าจะให้ สะใจวัยโจ๋ ควรมีรูปถ่ายแนบมาในกระทู้ ในกรณีนี้ ควรทำเมื่อคาดหวังว่าจะต้องเจอตัวจริงของเขา
ดีกว่าไม่ลงรูป พอนัดเจอตัวจริงเขากลับทำหน้าเซ็งๆ กับเรา และเขียนรายละเอียด
เช่นเบอร์โทรฯ, อีเมล์, ชื่อเฉพาะในการแช็ท ฯลฯ
(ไม่นำรูปผู้อื่นมาลงแทนรูปตัวเอง ต้องมีจรรยาบรรณ)
ไม่เขียนข้อความโอ้อวดคุณสมบัติตัวเองเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตา
(รูปของเรานั้นให้คนอื่นที่เขาเห็นตัดสินใจเอาเองดีกว่าว่า...รูปร่างหน้าตาของเรา
โดนใจเขาบ้างซักนิดหรือเปล่าแล้วเราจะสบายใจกว่า)
3. ไม่ควรกำหนดคุณสมบัติของบุคคลที่เราต้องการทำความรู้จักมากเกินไป เช่น
"อยากรู้จักกับสาวนุ่งสั้น"
" อยากรู้จักกับสาวสวย/หนุ่มหล่อ"
เพราะจะทำให้ตัวเลือก(คนที่ติดต่อเข้ามา) มีน้อย
และอาจถูกวิพากษ์วิจารณ์ จากการตอบกระทู้ในแง่ลบได้
จริงอยู่ที่ทุกคนมีสเปกเป็นของตัวเองแต่เก็บไว้ในใจแล้วค่อยบอกกับเขาทีหลังจะดูดีกว่า
4. ข้อนี้สำคัญที่สุด คือจะต้องระบุให้ชัดเจนว่า "เรา" เป็นคนจังหวัดไหน
มากกว่าที่จะไประบุว่า "เรา" ต้องการคุยกับคนจังหวัดไหนเพียงอย่างเดียว
เพราะ "คนส่วนใหญ่" ขอย้ำนะ ว่า "คนส่วนใหญ่"
ไม่ว่าจะเป็น " ผู้รุก" หรือ" ผู้รับ" เวลาจะหาเพื่อนคุยทางเน็ต
โดยเฉพาะทางโทรศัพท์นั้นเขาต้องการคุยกับคนที่อยู่ใน
จังหวัดเดียวกัน การที่เราไประบุว่าเราต้องการคุยกับคนจังหวัดนั้นจังหวัดนี้เพียงอย่างเดียว
จะทำให้เขาไม่แน่ใจได้ว่าเรามีภูมิลำเนาอยู่ที่ใด ซึ่งเมื่อเขามาสอบถามแล้วปรากฏว่าเรา
อยู่คนละจังหวัดกับเขาจะทำให้เขาเสียเวลาเปล่าๆ (การที่เราไม่ระบุว่าเราเป็นคนจังหวัดไหนถึงจะมีคนติดต่อ
มามากก็จริงแต่เราจะทำให้เขาเสียเวลามากกว่า)

เนื่องจาก ..........

จากการวิจัยของผู้เขียนพบว่า
ในจำนวนผู้ที่ต้องการหาเพื่อนคุย แชทโดยใช้สื่ออินเตอร์เน็ตและติดต่อกันทางโทรศัพท์ จำนวน ทั้งสิ้น 100 คน นั้น....
95 คน (หรือ 95 เปอร์เซ็นต์) ต้องการเพื่อนคุยที่อยู่ในจังหวัดเดียวกันกับตน
5 คน (หรือ 5 เปอร์เซ็นต์) ไม่สนใจว่าเพื่อนคุยจะเป็นคนจังหวัดไหน (คุยได้หมด ไม่เกี่ยง)


5. ไม่ควรเขียนข้อความต่อไปนี้
"ไม่คุยกับเกย์"
"ไม่คุยกับเพศเดียวกัน"
หรือข้อความล่อแหลมในทำนองดังกล่าวเพราะจะทำให้คนอื่นที่เขาเป็นคนประเภท
ที่เราไม่ต้องการคุยด้วยดังกล่าวเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีและพาลแจ้งลบกระทู้ของเราเอาง่ายๆได้
อีกด้วย เอาไว้พอคนประเภทดังกล่าว(ที่เราไม่อยากคุยด้วย)ติดต่อมา
เราค่อยบอกเขาดีๆก็ได้ เขาคงเข้าใจ
6. บันทึกข้อความที่เราโพสด้วยทุกครั้งกันเหนียว เพราะบางทีโพสแล้ว โดนลบ จะได้นำข้อความที่อยู่ในไฟล์ของเราไปก็อปปี้แล้วโพสที่อื่นในครั้งต่อไปโดย ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ใหม่ได้
7. การคุยเมื่อมีการติดต่อเกิดขึ้น อันนี้เป็นความสามารถเฉพาะตัว ผู้เขียน
ไม่อาจบอกได้เพราะหลักเกณฑ์ต่างๆมันประยุกต์ไปตามสถานการณ์ ขอให้ทุกคนโชคดี
วิธีการหาเพื่อนคุย(ติดต่อ) อย่างโดนใจเมื่อล่ารายชื่อ เบอร์โทร ฯลฯ ของฝ่ายตรงข้ามได้แล้ว

การหาเพื่อนจริงใจซักคนแน่นอนว่าเราจะต้อง
จริงใจกับเขาก่อนจึงได้รับความจริงใจกลับมา
1. พูดอย่างสุภาพ โดยเฉพาะการคุยทางโทรศัพท์ ควรแนะนำตัวว่าเราได้เบอร์โทร
หรือดังกล่าวมาจากเวปไซด์
2. อาจยิงเบอร์ให้เบอร์โชว์ที่เครื่องของเขา ให้เขาโทรกลับก็ได้ ในกรณีที่ไม่มั่นใจว่าเบอร์ที่เขาลงไว้ สามารถติดต่อได้จริงหรือเปล่า หรือเหตุผลอื่นๆก็ตาม แต่ผลที่ได้ “ไม่ชัวร์” เขาอาจ
โทรกลับหรือไม่โทรกลับก็ได้ แต่ก็อย่างว่าถ้าเราต้องการแสดงความจริงใจก็.. ไม่จำเป็นก็ไม่ควรใช้วิธียิงเบอร์ หากครั้งแรก เขาเป็นฝ่ายยินยอมโทรกลับ เพราะเรายิงเบอร์ไปล่ะก็ ไม่ควรใช้วิธีนี้สำหรับการติดต่อใน
ครั้งที่ 2 เพราะจะทำให้เขาเริ่มรู้สึก งง เบื่อหน่าย ไม่อยากคุย ฯลฯ
อาจทำให้ความสัมพันธ์จบลงง่ายๆ คิดดูให้ดีถ้าครั้งแรกเขายอมแสดงความจริงใจในการโทรกลับ เพราะฉะนั้นในการติดต่อครั้งที่ 2 เราก็ควรแสดงความจริงใจในการโทรหาเขาโดย “ไม่ยิงเบอร์” เช่นเดียวกัน เขาจะได้มีกำลังใจอยากสานต่อความสัมพันธ์ หรือถ้าจะใช้วิธีนี้ให้สุภาพ ในครั้งแรก อาจจะโทรไป พอเขารับ
สายก็ขอร้องให้เขาโทรกลับด้วยคำพูดที่สุภาพก็ได้ จะดูเป็นวิธีที่น่ารักกว่า
เราอาจใช้บริการโทรนาทีละ2 บาทที่ตั้งโต๊ะตามตลาด หรือสถานที่ต่างๆแทน
เพื่อความประหยัดแล้วบอกเขา ว่าเราใช้เบอร์ผู้อื่นโทรอยู่และอาจให้เบอร์ของเราจริงๆแก่เขา
ในระหว่างสนทนา เผื่อเขาอยากติดต่อกับเราในโอกาสหน้า
หรือถ้ามีอีเมล์ก็ติดต่อโดยอีเมล์ก็ได้
3. สำหรับผู้ที่ใช้บริการจาก วันทูคอล ซึ่งสามารถคุยกันแบบ
" ถามคำวางหู ตอบคำวางหู" ได้นั้น ผู้เขียนไม่สนับสนุนให้ใช้วิธีนี้
โดยเฉพาะคนที่เราอยากจะทำความรู้จักในวันแรก
เพราะจากการที่ผู้เขียนวิจัยมานั้น เป็นการกระทำที่
เสียความรู้สึก น่าเบื่อ เผลอๆ อาจโดนโทรกลับแล้วด่า เข้าอีกได้
4. อย่างไรก็ดี “การยิงเบอร์ให้โทรกลับ” หรือ “ถามคำวางหู ตอบคำวางหู” เป็นวิธีที่ใครยอมรับว่าประหยัดค่าใช้จ่าย หากแต่ สามารถกระทำได้เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายรู้จักมักจี่กันดี ในระยะหนึ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หรือมีการตกลงและยอมรับไว้ก่อนหน้านั้นแล้วว่าใช้วิธีดังกล่าวได้ โดยไม่รู้สึกโกรธ แต่ถ้าเราเริ่มต้นที่จะรู้จักใครซักคน
(ที่จริงใจ) ล่ะ? ใช้วิธีแบบนี้ไม่ได้ผลแน่นอน ขอยืนยัน อย่าลืมนะคะว่า “ ผู้ที่ไม่ยอมลงทุนในการหาเพื่อนใหม่เลย ก็ไม่สมควรที่จะได้รับความจริงใจกลับมา” คิดดูสิคะถ้าเป็นคุณเป็นเขาคุณจะชอบไหม?

เวบที่นิยมสำหรับการหาเพื่อนคุยของหนุ่มสาว

WWW.SANOOK.COM เป็นสมาชิกเท่านั้นจึงลงรูปถ่ายได้ ลงรูปถ่ายไม่ซ้ำกันได้ แต่ตั้งกระทู้ทั่วๆไป (โดยไม่ลงรูปถ่าย ) โดยบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกได้
WWW.HUNSA.COM ลงรูปถ่าย-ตั้งกระทู้ ได้ ไม่จำกัดว่าต้องเป็นสมาชิกหรือไม่ ลงรูปถ่ายไม่ซ้ำกันได้
WWW.NARAK.COM เป็นสมาชิกเท่านั้นจึงลงรูปถ่าย-ตั้งกระทู้ได้ แต่ลงรูปถ่ายได้ตายตัวนอกจากเปลี่ยนรูปที่ประวัติเสียใหม่
WWW.MTHAI.COM เป็นสมาชิกเท่านั้นจึงลงรูปถ่าย-ตั้งกระทู้ได้ ลงรูปถ่ายไม่ซ้ำกันได้
WWW.TTTONLINE.NET เป็นสมาชิกเท่านั้นจึงลงรูปถ่าย-ตั้งกระทู้ได้ ลงรูปถ่ายไม่ซ้ำกันได้

วิจารณ์
SANOOK.COM นั้นเป็นเวบยอดฮิตที่มีคนใช้บริการมากที่สุด แต่อย่างว่าบางทีก็ต้องเช็คอยู่เรื่อย ทุกวันนะว่ากระทู้ ของคุณโดนลบหรือเปล่า เพราะมีหลายคนบ่นมาซะเหลือเกินว่าลงไปได้ไม่กี่วันโดนลบซะเกลี้ยง จนหาเพื่อนคุยไม่ได้เลย
HUNSA.COM นี่ก็น่าลงนะแต่ส่วนมากคนที่เข้ามา ตอบกระทู้มักจะมีพวกหยาบคายเขียนคำที่มันหยาบมากๆ จนผู้เขียนเห็นแล้ว สงสารเจ้าของกระทู้ก็เคยมี บ่อย
MTHAI.COM มีผู้ใช้บริการตั้งกระทู้น้อยที่สุดใน 4 เวบนี้ ต้องโพสให้โดนใจที่สุดจึงได้ผล
ส่วน TTTONLINE.NET ก็ใช้ได้ ดีมีโดนลบรูปบ้าง ส่งข้อความฟรี(เมื่อเป็นสมาชิกโดยไม่เสียตังค์)อีกต่างหาก
ไม่ค่อยเจอปัญหาอะไร

การป้องกันและแก้ปัญหาเมื่อกระทู้โดนลบ
1. เมื่อเราลงกระทู้ให้ตรวจสอบในวันรุ่งขึ้นว่ากระทู้ยังอยู่หรือเปล่า ถ้าไม่อยู่ ใช่เลย โดนลบชัวร์
2. ให้ลองลงข้อความเดิม แต่เปลี่ยนชื่อคนตั้ง เสียใหม่ ใช้ได้กับเวบที่ลงกระทู้ได้โดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นสมาชิกหรือเปล่า
3. ถ้าตรวจสอบกระทู้ในวันถัดไปพบว่า “ กระทู้ที่เปลี่ยนชื่อคนตั้ง” ของเรายังโดนลบอีกจนได้ ให้
ใช้บริการเวบอื่นแทน (ให้มันรู้กันไป)